ทำ Company Profile อย่างไร ให้แตกต่างและสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจ
ทำ Company Profile อย่างไร :ให้แตกต่างและสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจ : ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคอมพานีโปรไฟล์ ก็ยังมีความสำคัญกับทุกกลุ่มธุรกิจ เรียกได้ว่าเป็นเอกสารสำคัญเพื่อใช้ในการประกอบการขาย และสามารถนำเสนอตัวตนของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ในตอนที่ 1 (ปี 2012) ทางเราเคยนำเสนอเรื่องนี้ไปก็ยังได้รับความสนใจมีผู้เข้าอ่านและสอบถาม รายละเอียดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง (อ่านตอนที่ 1) ในอดีตเกือบทุกบริษัทนำเสนอ Company Profile ของบริษัทตนเองด้วยรูปแบบคล้ายๆกัน อาทิ ปีที่ ก่อตั้ง ประวัติบริษัท ทุนจดทะเบียน วิศัยทัศน์ พันธกิจ รวมถึงสารจากท่านประธาน ซึ่งโดยภาพรวมแล้วดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อในการอ่าน Company Profile แต่ละเล่ม
จากปัญหาดังกล่าวเรามีคำตอบที่เขียนไว้ได้แต่ปี 2012 คือ “การนำเสนอศักยภาพที่แตกต่างของธุรกิจ สู่กลุ่มเป้าหมายอย่างตรงไปตรงมา” โดยเรียงลำดับการนำเสนอจากเรื่องที่น่าสนใจมากไปหาน้อย อาทิเช่นบริษัทของท่านแตกต่างด้วยเทคโนโลยี และ นวัตกรรมก็ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นหลักในการนำเสนอ แล้วตามด้วยเนื้อหาอื่นๆที่จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า แล้วจึงค่อยเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ควรมีเช่น ประวัติธุรกิจ, รางวัลหรือมาตรฐานที่ได้รับ, โครงสร้าง การบริการ ฯลฯ เป็นต้น
แน่นอนว่าในปัจจุบัน ที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนเเปลงไป สื่อ Online เข้ามามีบทบาทในการสื่อสาร การนำเสนอศักยภาพที่แตกต่างของธุรกิจสู่กลุ่มเป้าหมายอย่างตรงไปตรงมา นั้นอาจยังไม่เพียงพอ
Company_Profile ที่ดีในปัจจุบันควรจะต้อง “แคบแต่ลึก (Narrow And Deep)” ความหมายคือ เข้าใจง่าย สั้นกระชับ และมีส่วนขยายในทาง Online ให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าดูรายละเอียดได้อย่างลึกซึ้ง สามารถ Share เนื้อหา และ สามารถบูรณาการเข้ากับสื่ออื่นๆ ของบริษัทได้อย่างเป็นระบบ
ปัจจุบันเราอาจจะได้ยินผ่านหูกันบ่อยครั้งว่าคนไม่ชอบที่จะอ่านเนื้อหาปริมาณมากๆ แต่ถ้าสนใจ จะทำการสืบค้นเข้าไปอ่านและถ้าพอใจมักจะมีพฤติกรรมในการแบ่งบันข้อมูลหรือเรียกกันติดปากว่า Share
จากลักษณะข้างต้นเรานำมาปรับใช้กับรูปแบบของ Company_Profile ให้มีปริมาณตัวอักษรที่น้อยลงเขียนเฉพาะเนื้อหาสำคัญและสรา้งส่วนขยายที่เป็นภาพให้ช่วยเล่าเรื่อง พร้อมด้วยการวาง link สู่รายละเอียดปลีกย่อยในรูปแบบ Multimedia อาทิเช่น Virtual Reality, Augmented Reality เป็นต้น
การทำ Company profile ในรูปแบบ Online นั้นมีความจำเป็นและความสำคัญในธุรกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งในธุรกิจที่เป็นลักษณะ B2B ยังจำเป็นต้องใช้สื่อออนไลน์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่การทำ Company profile ในแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกัน อาทิเช่น
- ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอะไร
- วัตถุประสงค์ที่ใช้ และนำเสนอ
- กลุ่มเป้าหมาย
- สินค้าและบริการที่จัดจำหน่าย
เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้จะทำให้รูปแบบของ Company profile แต่ละธุรกิจแตกต่างกันออกไป ที่ขาดเสียไม่ได้คือการสร้างการจดจำ ด้วยการสร้างให้ล้อไปกับรูปแบบ Coprate Identity ที่มีอยู่เดิมของแต่ละบริษัท หรืออาจสร้างรูปแบบขึ้นมาใหม่โดยใช้ Keyword/Key Visual ใน เล่มนั้นๆเป็นตัวตั้งต้น จากนั้นจึงนำเอารูปแบบที่ได้ไปปรับใช้กับสื่ออื่นๆให้เกิดเป็นรูปแบบที่สอดคล้องกัน
ตัวอย่างการ ทำ Company Profile แล้วนำไปพัฒนาต่อเป็น Website